<p><strong>สำหรับใครที่เป็นสายทำเพลงมือใหม่ ตัดต่อวิดีโอ พอดแคสต์ หรือสายฟังเพลงอาจจะยังไม่ทราบว่า จริง ๆ แล้ว&nbsp;ชนิดไฟล์เสียง&nbsp;บอกอะไรมากกว่าที่คุณคิด เนื่องจากไฟล์เสียงแต่ละประเภทก็จะให้คุณภาพเสียงที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นการเลือกบันทึกไฟล์เสียงแต่ละชนิดจึงทำให้ได้ผลลัพธ์ที่แตกต่างออกไปด้วยนั่นเอง ชนิด ไฟล์เสียง&nbsp;ที่มีอยู่ในปัจจุบันนั้นมีอยู่ประมาณ 10 ชนิดด้วยกัน แต่สำหรับวันนี้เราขอยกมาเป็นตัวอย่างให้ ได้รู้จักกัน 5 ชนิด โดยจะมีทั้งชนิดไฟล์แบบมาตรฐานใช้ได้ทั่วไป ไปจนถึง ไฟล์เสียงแบบไหนดีที่สุดเพื่อสามารถใช้ไปเป็นแนวทางในการเลือกบันทึกไฟล์เสียงให้เหมาะกับการนำไฟล์ไปใช้งานต่อ ซึ่งทั้ง 5 ชนิดไฟล์เสียงมีดังนี้</strong></p>
<p>&nbsp;</p>
<ul>
<li><strong>ไฟล์ MP3</strong><br />ไฟล์เสียง MP3 หรือ MPEG-1 AUDIO LAYER ไฟล์ชนิดนี้เป็นไฟล์ที่ใช้ได้กับอุปกรณ์ทั่วไปและไฟล์มีขนาดเล็ก แต่ก็เป็นไฟล์ที่ถูกจัดอยู่ในกลุ่ม &ldquo;รูปแบบที่มีการสูญเสีย&rdquo;คือไฟล์จะมีการสูญเสียรายละเอียดแต่จะเป็นเสียงที่หูเราจะไม่ได้ยินดังนั้นค่ายเพลงจึงนิยมปล่อยเพลงที่เป็นไฟล์ชนิดนี้ออกมาแต่ถ้าเป็น โปรดิวเซอร์ นักมิกซ์เสียงหรือวิศวกร ไฟล์ชนิดนี้ไม่นิยม</li>
<li><strong>ไฟล์ OGG VORBIS</strong> <br />ไฟล์เสียง OGG VORBIS จัดเป็นไฟล์เสียงประเภทเดียวกับ MP3&nbsp; OGG กับ MP3 หากเทียบกัน ไฟล์ OGG VORBIS จะเป็นมีประสิทธิภาพมากกว่า MP3 เนื่องจาก OGG VORBIS เป็นตัวแปลงสัญญาณเสียงแบบ OPEN SOURCE <br />ซึ่งจะเหมาะกับการสตรีม แต่เมื่อเทียบในอัตราบิตเท่ากันผลลัพธ์ที่ได้พบว่า OGG VORBIS เป็นชนิดไฟล์เสียงที่มีประสิทธิภาพมากกว่า</li>
<li><strong>ไฟล์ FLAC</strong><br />เป็นไฟล์แบบที่ไม่มีการสูญเสีย ดังนั้นไฟล์ชนิดนี้เมื่อมีการส่งกลับไปมาหรือส่งไฟล์ต่อกันหลาย ๆ ทอดก็จะไม่สูญเสียคุณภาพของเสียง จะมีขนาดที่ใหญ่ เป็นแบบ OPEN SOURCE ใช้ได้ฟรี สำหรับที่ใช้ APPLE ก็จะเป็นชนิดไฟล์แบบ ALAC&nbsp; MP3 กับ FLAC มีคุณภาพต่างกัน ใช้พื้นที่ในการจัดเก็บไฟล์ต่างกันและที่สำคัญคือให้รายละเสียงได้แต่กต่างกัน</li>
<li><strong>ไฟล์ WAV</strong><br />ไฟล์ WAV คือไฟล์ชนิดหนึ่งที่จัดว่าเป็นไฟล์ที่มีคุณภาพสูง ไม่มีการบีบอัดจึงทำให้ไฟล์เสียง ที่ส่งออกไปยังปลายทางยังคงเป็นแบบนั้น อีกทั้งปัจจุบันยังจัดว่าเป็นชนิดไฟล์มาตรฐานของ WINDOWS แต่ปัจจุบัน APPLE ก็สามารถบันทึกไฟล์นี้ได้เช่นกันดังนั้นจึงจัดว่าเป็นชนิดไฟล์เสียงระดับสากล และสำหรับใครที่ทำ HOME STUDIO หรืองานที่ต้องอาศัยเสียงที่มีคุณภาพสูง ไฟล์ WAV จึงเหมาะที่สุด และจัดว่าเป็นนามสกุลไฟล์เสียง ดีที่สุด</li>
<li><strong>ไฟล์ DSD</strong><br />หรือ Direct Stream Digital จะเป็นไฟล์ไม่ใช่ไฟล์ที่ใช้กันทั่วไปเนื่องจากเป็นชนิดไฟล์ที่มีข้อจำกัดในเรื่องของซอฟต์แวร์และอุปกรณ์ที่รองรับอยู่ค่อนข้างมาก แต่ DSD เป็นหนึ่งใน ไฟล์เสียงความละเอียดสูง โดยจะมักใช้ในงานที่ต้องการเสียงคุณภาพสูง เช่น คอนเสิร์ต หรือ MASTERING หรือจะใช้ในสตูดิโอใหญ่ ๆ มากกว่า และด้วยข้อจำกัด ของซอฟต์แวร์ และขนาดไฟล์ที่ใหญ่มาก จึงทำให้ไฟล์ชนิดนี้ไม่เป็นที่นิยม</li>
</ul>
<p>&nbsp;</p>
<p><strong>ที่มา</strong> : https://edittrick.com</p>
<p>&nbsp;</p>